bnn.in.th จำหน่ายหูฟังหลากหลายรูปแบบ ทั้งหูฟังบลูทูธไร้สาย, หูฟัง Full-Size, เฮดโฟน (Headset), หูฟังแบบสปอร์ตกันน้ำ, หูฟังเกมมิ่ง รวมไปถึง หูฟังตัดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับผู้ที่รักในเสียงเพลง เสียงดนตรี มีให้เลือกหลากหลายแบบตามความต้องการของคุณ สามารถสั่งสินค้าออนไลน์ได้ง่ายๆ ในราคาพิเศษจากร้านบานาน่า
หูฟัง
212 รายการ
“หูฟัง” ปัจจุบันถือเป็นแกดเจ็ตสำคัญที่ต้องพกติดตัวไปด้วยเสมอโดยเฉพาะคนที่ชอบฟังเพลง ซึ่งปัจจุบันมีหูฟังมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย ทรงอินเอียร์ เฮดโฟน หรือเอียร์บัด และหลากหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกซื้อเลือกหาให้ตรงใจ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อหูฟังคู่ใจให้ตัวเองสักอันควรเลือกแบบไหน อย่างไรดี วันนี้เรามีเทคนิคเลือกหูฟังเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจมาฝากกัน
5 เทคนิคเลือกหูฟังให้ตอบโจทย์และตรงใจที่สุด
1. เลือกขนาดและรูปทรงให้เหมาะกับตัวเอง
เพราะรูปร่าง ขนาด และรูปทรงของใบหู อีกทั้งความชอบที่แตกต่างกันของแต่ละคน ทำให้ดีไซเนอร์ผู้ออกแบบหูฟังต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อตอบโจทย์ทั้งเรื่องสรีระ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงการส่งเสียงไปยังหูของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเรามักจะเห็นหูฟังอยู่ 3 แบบ ดังนี้
-
หูฟังแบบครอบหู Full-Size เป็นหูฟังที่บางคนเรียกว่าเฮดโฟน ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เวลาใส่ต้องครอบทับปิดเต็มหู และเพราะขนาดรูปทรงที่ใหญ่นี้เองจึงสามารถใส่ไดร์ฟเวอร์หรือตัวขับเสียงที่มีขนาดใหญ่ได้ จึงทำให้หูฟังครอบหูเป็นหูฟังที่มีเสียงดี ชัดเจน อีกทั้งลักษณะหูฟังที่ครอบปิดได้ทั้งใบหูยังช่วยตัดเสียงรบกวนได้ดีอีกด้วย เหมือนใน Blue Box BB001 หูฟังไร้สายแบบครอบหัว เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.0 ที่มาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอ ด้วยไดเวอร์ขนาดใหญ่ 40 มิลลิเมตร ให้เสียงดี ชัดเจน ฟองน้ำนิ่มไม่เจ็บหู แถมยังมีไมโครโฟนและช่องเสียบหูฟังเพื่อใช้เชื่อมต่อแบบมีสายได้อีกด้วย
-
หูฟังแบบ On-Ear เป็นหูฟังที่สายออกกำลังกายชื่นชอบ เพราะรูปทรง ขนาดที่เล็กกว่า และน้ำหนักที่เบากว่าหูฟังแบบครอบหู แถมได้คุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ดีอีกด้วย ดังนั้น หูฟังแบบ On-Ear จึงเป็นหูฟังที่คนชื่นชอบการออกกำลังกายมักมองหานั่นเอง และใน Shokz Openmove เป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ด้วยสิทธิบัตรการออกแบบตามสรีระช่วงกระดูกของใบหูจึงทำให้ส่วมใส่สบาย กระชับ มอบเสียงที่แม่นยำ สมดุล และเสียงเบสที่หนักแน่น
-
หูฟังแบบ Micro-Size เป็นหูฟังที่นิยมใช้กันมากที่สุดเพราะน้ำหนักเบา ตัวเล็กและพกพาง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะพบหูฟัง Micro-Size อยู่ 2 ประเภทคือ เอียร์บัด (Earbuds) และหูฟังอินเอียร์ (In-Ear) โดยหูฟังแบบเอียร์บัด (Earbuds) เป็นหูฟังที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วไปเพราะสบายหู คุณภาพเสียงค่อนข้างเหมาะกับราคาและสามารถฟังต่อเนื่องได้นาน ส่วนหูฟังอินเอียร์ (In-Ear) เป็นหูฟังที่ต้องใช้ซิลิโคนยางสอดเข้าไปในรูหู จึงทำให้หูฟังประเภทนี้มีเสียงที่ชัดและแน่นกว่าเอียร์บัด ซึ่งใน JBL Wave 200 เป็นหูฟังไร้สายในรูปแบบอินเอียร์ รอให้คุณสัมผัสพลังเสียงเบสที่นุ่มลึก หนักแน่น ชัดเจน ของ JBL ด้วยไดรเวอร์ 8 มม. ที่สามารถใช้ได้ถึง 20 ชั่วโมง พร้อมไมโครโฟนสำหรับรับสายสนทนาได้อีกด้วย
2. เลือกการเชื่อมต่อที่ต้องการ
นอกจากรูปทรงและขนาดที่ต้องคำนึงถึงแล้ว ความสะดวกในการใช้งานของหูฟังมีสายและหูฟังแบบไร้สายเป็นอีกสิ่งที่ผู้ใช้งานหูฟังจะต้องคำนึงถึงด้วย เพราะนอกจากความสะดวกในการใช้งานแล้ว หูฟังทั้ง 2 ประเภทนี้ก็ยังให้ความแตกต่างกันในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการบำรุงรักษาที่ต้องคอยชาร์จกับเรื่องการจัดเก็บสาย คุณภาพเสียงที่แม้ว่าจะมีคุณภาพใกล้เคียงกัน แต่สำหรับคนที่ต้องการพลังเสียงและปรับแต่งได้ก็ต้องเลือกแบบมีสาย รวมไปถึงราคา ซึ่งหูฟังแบบไร้สายจะมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย
ทั้งนี้หากตัดสินใจจะเลือกซื้อหูฟังไร้สายก็อย่าลืมดูเวอร์ชั่นของบลูทูธที่ปัจจุบันได้พัฒนาถึง 5.0 แล้ว สำหรับหูฟังมีสายอย่าลืมให้ความสำคัญกับประเภทของวัสดุนำสัญญาณและความยาวด้วย
3. คุณภาพเสียงที่ต้องรู้
มาต่อกันที่สิ่งสำคัญที่จะพลาดไม่ได้ในการเลือกซื้อหูฟังเสียงดีๆ สักอัน นั่นก็คือการเข้าใจและเลือกคุณภาพเสียงให้เป็น ซึ่งโดยปกติเราจะดู 2 สิ่งนี้
-
ไดรเวอร์ (Driver) หรือตัวกำเนิดเสียง ซึ่งไดรเวอร์ยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งสร้างเสียงต่ำและลึกได้ดี อีกทั้งยังสร้างเสียงที่คมชัด มีความละเอียด สมดุล และสามารถถ่ายทอดเสียงเพลงในย่านความถี่ต่างๆ ได้ถูกต้องและแม่นยำได้
-
การเข้ารหัสเสียง (Codec) เป็นรูปแบบการบีบอัดเสียงให้เหมาะกับอุปกรณ์ หรือ Device ประเภทต่างๆ ที่พร้อมจะส่งมอบคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดบนอุปกรณ์ประเภทนั้นๆ
-
SBC (Subband Coding): เป็น Codec ที่มีคุณภาพเสียงมาตรฐาน ซึ่งสามารถส่งถ่ายเสียงได้ทั่วไป
-
AAC (Advanced Audio Coding): Codec ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า SBC สามารถบีบอัดเสียงได้ด้วยความละเอียดสูงและมักใช้งานบนอุปกรณ์ Apple
-
aptX: เป็น Codec ที่พัฒนาโดย Qualcomm โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ดี ให้เสียงคมชัดและความละเอียดสูง
-
LDAC: เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Sony ซึ่งออกแบบมาเพื่อหูฟังไร้สายโดยเฉพาะ ทำให้หูฟังไร้สายสามารถส่งสัญญาณคุณภาพเสียงได้เร็วกว่าเทคโนโลยีไร้สายอื่นๆ ได้ถึง 3 เท่า และให้เสียงระดับ Hi-res ชัดเจน คมชัดและมีความละเอียดสูง
4. มองหาไมค์และการตัดเสียงรบกวน
นอกเหนือจากคุณภาพเสียง รูปแบบหูฟังที่ต้องการแล้ว ในปัจจุบันหูฟังไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ฟังเสียงเพลงอย่างเดียว แต่ยังพ่วงมากับการเป็นไมโครโฟนในตัวได้อีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่ใช้หูฟังพร้อมไมค์เป็นประจำอย่าลืมเลือกซื้อหูฟังที่มีไมค์ด้วย รวมถึงถ้าต้องการคุณภาพเสียงสนทนาที่ชัดเจนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น แนะนำให้เลือกหูฟังที่ไมค์มีระบบตัดเสียงรบกวน ก็จะได้เสียงสนทนาที่ชัดเจนและเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง
5. แบตเตอรี่ที่เหมาะกับการใช้งาน (สำหรับหูฟังไร้สาย)
สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใช้หูฟังไร้สาย ข้อสำคัญอีกข้อสำหรับการเลือกซื้อหูฟังไร้สายนั่นคือแบตเตอรี่และระยะเวลาในการใช้งาน เพราะหูฟังบลูทูธ หรือหูฟังไร้สายบางตัวสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงหรือใช้หูฟังในการทำงานได้อย่างไม่มีสะดุด
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือกหูฟังให้ตอบโจทย์และตรงใจที่สุดเพื่อคุณ สำหรับใครที่รู้แล้วว่าตัวเองต้องการหูฟังแบบไหน สามารถเข้ามาเลือกซื้อหรือชอปหูฟังออนไลน์ในราคาพิเศษได้ที่ BaNANA Online เพราะที่นี่เราครบครันทุกเรื่องของไอที ไม่ว่าจะเป็นหูฟังบลูทูธ หูฟังมีสาย ลำโพง หรืออุปกรณ์ไอทีอื่นๆ เราพร้อมให้คุณได้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว แถมยังให้ราคาโปรโมชันดีๆ ที่พิเศษกว่าใครและของแถมสุดพิเศษอีกมากมาย